รถไฟ ผจญภัย ราชบุรี 3 วัน 2 คืนกับงบ 1000

กุมภาพันธ์ 05, 2561


พอมันเบื่อกับสิ่งเดิมๆอยู่ทุกวัน ก็อยากหาอะไรใหม่ๆมาเติมชีวิตชีวาบ้าง
เเต่คิดไว้ว่าไม่ไกลไปสำหรับวันหยุดเล็กๆน้อยๆ เลยเลือกที่จะมาราชบุรีถิ่นมีโอ่ง



เราเริ่มออกเดินทางจากที่พักถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงประมาณ 9.00น.
ซื้อตั๋วเสร็จก็รอรถไฟเที่ยวเเรก กรุงเทพ-หัวหิน ออกจากสถานี 9.20น.


คนใช้บริการรถไฟไม่คึกคักมากนัก เพราะอาจไม่ใช่ช่วงเทศกาล ทำให้เราได้มีที่นั่งได้สบายๆ
เเละคนไม่วุ่นวายด้วย เรียกได้ว่าทริปนี้ออกตัวก็สบายๆชิวๆซะเเล้ว 555
เเต่ต้องรอดูต่อไปว่าจะชิวทั้งทริปหรือเปล่า 555


เราถึงสถานีรถไฟราชบุรี เป็นสถานีตัวเมืองของจังหวัดราชบุรี
เราถึงสถานีกันตอน 12.00น. บรรยากาศกำลังดี ท้องฟ้าสดใส


จากนั้นเราก็ไม่รอช้า เดินไปยังที่พักที่เราได้จองไว้ผ่านทางเว็บไซต์
เดิน เดิน เดิน เเล้วก็เดิน !!!!


เราเดินกันจากสถานนีไปโรงเเรมที่ได้จองไว้ เป็นระยะทาง 3กิโล
นึกถึงเวลาเดินทางไกลตอนค่ายลูกเสือเลยครับ 555


ในทันใดนั้นเอง เราก็ได้ถึงที่พักในที่สุด 55555
ที่พักสำหรับผมก็โอเค เป็นโรงเเรมใหม่ที่เพิ่งสร้าง ทุกอย่างเลยดูดีเเละใหม่มาก
พอมาถึงโรงเเรม เราก็พักเอาเเรงกันสักหน่อย ก่อนจะเดินทางกันต่อ


จากที่เราพักชาตพลังกันเรียบร้อย ไม่รอช้าที่จะออกเดินทางต่อทันที
เราจะไปกันที่ โรงงานเซรามิค เถ้า ฮง ไถ่ ซึ่งห่างจากโรงเเรมที่เราพักกัน 2กิโล
เราจึงไม่รอช้า เดิน เดิน เดิน เเล้วก็เดิน !!!!



เถ้า ฮง ไถ่ เป็นโรงงานเซรามิค ที่มีเเต่เซรามิคจริงๆครับ จะเห็นได้ว่าจากรูป ทางเดิน
จะเต็มไปด้วยเซรามิต มากมายสุดๆ ไม่มีจุดไหนที่ไม่มีเซรามิตเลย 
พูดได้ว่าเป็นเมืองเซรามิคเล็กๆเลยก็ว่าได้



เเต่ที่นี้ขึ้นชื่อว่าโรงงานซรามิค จึงทำมีทุกอย่างหลากหลายที่เกี่ยวกับเซรามิค
ตั้งเเต่กระถางต้นไม้ เเจกัน ไปจนถึงกระเบื้อง ของตกเเต่ง เเละงานศิลปะ


เเถมที่นี้เขาได้จัดสถานที่ต่างๆให้ดูเป็นธรรมชาติซะด้วย ตกเเต่งสถานที่จุดต่างๆมุมต่างๆ
ได้ออกมาสวยมากเลยทีเดียว


มุมต่างๆของที่นี้ถูกจัดด้วยการเอาธรรมชาติกับเซรามิคมาเข้าด้วยกัน
เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมว่าสวยเเละลงตัวอย่างมากครับ


อย่างงานใหญ่สูงๆ เเบบนี้ เขาก็มีกันนะครับ ฝีมือของช่างที่นี้เเน่นอนจริงๆ


พอเราได้ออกจากโรงานเซรามิค เราได้หาข้าวกินกัน ซึ่งเดินไปเจอร้านข้างๆพอดี
ฝนก็ได้ตกลงมา เพิ่มบรรยากาศความเย็นเเละความเปียกเข้าไปอีก
ถือว่าเป็นโอกาสเหมาะกับทริปแบบลุยๆอย่างที่คิดไว้ 555555


นอกจาก ร้านป้าเขาจะขายอาหารตามสั่งเเล้ว เขายังขายขนมปังไว้ให้พวกเราเก็บเป็นเสบียง สำหรับตอนเดินทางอีกด้วย ป้าเเกบอก เเกขายไม่เอากำไลมากหรอกลูก 5ชิ้น20บาท เธอก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปชาตทันที 55555



หลังจากนั้นเราก็ได้เดินเท้าลุยฝนกันต่อเรื่อยๆ เลยไม่ได้เก็บภาพระหว่างทาง
จนเรามาถึง หอศิลป์ร่วมสมัย (เถ้า ฮง ไถ่ ดีคุ้น) เราได้เข้าไปหลบฝนสักระยะหนึ่ง





หอศิลป์นี้เป็นสถาปัตย์บ้านไทยทรงมะนิลา สมัยปลาย ร. 5 เเละได้อนุรักษ์ความงาดงามเเบบในสมัยก่อนมากๆ ทั้งเนื้อไม้เเละวัสดุต่างๆ พอเราได้เข้ามาด้านในเป็นบรรยากาศถึงความเก่าของรูปทรง บวกกับการตกเเต่งที่ร่วมสมัยอย่างลงตัว
 

เรานั่งพักผ่อนได้สบายเเถมยังมีงานศิลปะให้ชมอีกด้วย มีจัดเเสดงทั้งชั้นล่างเเละชั้นบน


หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อ เรามาถึงจุดริมน้ำใกล้สะพานจุฬาลงกรณ์ 
ที่ทอดข้ามลำน้ำแม่กลองมา บรรยากาศดีมาก



เราเดินเล่นริมเเม่น้ำกัน หลังฝนตกอากาศกำลังดี
ใกล้ๆกันมีตลาดในช่วงหัวค่ำ ถือว่าเดินลุยตากฝนมาหายเหนื่อย




สะพานตอนมองใกล้ๆ


เริ่มจะค่ำเเล้ว เราเดินทางกับไปยังที่พัก


รถประจำทาง ที่หาดูในกรุงเทพไม่ได้


ที่นี้ดูอบอุ่นเหมือนกัน ทั้งผู้คนเเละร้านค้า


หลังจากที่เดินทางกันทั้งวัน เราก็ได้ถึงที่พัก เป็นอันจบภารกิจสำหรับ อ.เมือง ในวันเเรก


หลังจากพักผ่อน เช้ามาเราก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงเเรม เดินทางต่อไปยัง อ.โพธาราม


ลุงขี่มอไซต์พ่วงผ่านเลยไป หันหลังกลับมาดู ถามว่าเรากำลังจะไปไหน เดี๋ยวลุงไปส่ง
ดีเหมือนกัน พักจากเดินเท้าไปสัก กิโลสองกิโล


จากนั้นเราได้ไปซื้อตั๋วรถไฟ จาก อ.เมืองไปอ.โพธาราม ราคา 4 บาทต่อคน


บรรยากาศสถานีเงียบเหงา ไม่ค่อยมีคนมากนัก


ในตั๋วบอก รถไฟมา 13.50 เอาเข้าจริง มา 14.30 การนั่งรถไฟต้องทำใจ
อย่างเเรกเลยคือไม่ค่อยตรงเวลา ถ้าใครไม่คิดไรมาก


14.30 รถไฟได้ถึงสถานีราชบุรี(อ.เมือง) เราได้นั่งไปจากอ.เมืองไปอ.โพธารามเพียง3สถานีก็ถึง


พอถึงอ.โพธาราม เราก็ไม่รอช้าที่จะเดินชมบ้านเก่า คนที่นี้เขาได้อนุรักษ์ไว้สวยงาม


หลังจากเดินถ่ายรูปเล่นกัน เราก็ได้มาเเหวะพักเหนื่อยร้านดูนม
ร้านดูนมเป็นร้านขึ้นชื่อของเเหล่งท่องเที่ยวทีนี้เลย
เพราะเราถามชาวบ้านมา เขาเเนะนำรา้นนี้กันเยอะ 5555


น่าตาของมันพอใช้ได้ถือว่าผ่าน ต้องลองชิมว่าจะอร่อยเหมือนที่เขาเเนะนำกันมาไหม


ให้รูปมันเป็นคำตอบเอาละกันนะ 555


บรรยากาศเหมือนเราดังจิบกาเเฟที่โรงน้ำชาในตรอกไบเล่ 555


เราก็ได้เดินทางต่อ เเวะถ่ายตามบ้านข้างทาง


ใกล้ค่ำเเล้ว เรามาซื้อตั๋วเพื่อไป อ.บ้านโป่งต่อ
เราคิดกันว่าจะไปหาโรงเเรมนอนที่บ้านโป่ง


เดินทางต่อ โพธาราม-บ้านโป่ง


เรามาถึงบ้านโป่งเวลา 17.00 ต้องรีบหาที่พักกันเเล้ว ก่อนจะมืด


ระหว่างที่เรากำลังหาที่พัก เราก็เดินเล่นดูงานกราฟฟิตี้ ที่จริงมีอีกหลายชิ้นเลย ด้วยความที่เหนื่อยกับการเดินทางมมาทั้งวัน เราเลยต้องรีบไปทีพักก่อน


ที่นี้ค่อนข้างคึกคักในช่วงเย็น ผู้คนออกมาหาซื้อกับข้าวกันเยอะ


เมื่อได้ที่พักเเล้ว เอาของไปเก็บกัน เราก็ออกมาเดินเล่นกันไปเเถวๆนั้น


เดินมาสักพักหน่อย ก็เริ่มมืดมากเเล้วเลยเเวะพักเหนื่อยกันหน่อย เเเถวนี้มีบาร์เล็กๆบาร์หนึ่งเป็นคูหาทรงเก่าธรรมดาๆ ที่ด้านในได้บรรยากาศที่ไม่ธรรมดา


จากนั้นเราก็ได้เดินทางกลับกัน หลังจากลุยกันมา2วัน2คืนเต็ม ได้ประสบการ์ณกันไปอีกเเบบ



เราเดินทางกลับกันโดยรถตู้ ใช้เวลประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ก็ถึงอนุเสาวรีย์

รวมค่าใช้จ่ายหลักๆในทริปนี้
ค่ารถไฟไปราชบุรี 44 บาท/ต่อคน
ค่าที่พักคืนเเรก 550 บาท
ค่ารถไฟไปออำเภอต่างๆ 4 บาท/ต่อคน
ค่าห้องคืนที่สอง 250 บาท
ค่ารถตู้ 60 บาท/ต่อคน
ค่ากินอีกต่างหาก อยู่ที่ไลฟ์สไตล์การเที่ยวของเเต่ละคนด้วยนะครับ 
ว่าจะใช้งบเยอะหรืองบน้อย
ส่วนของผมตกคนละ 1000 บาท สำหรับ 2 คืน 3 วัน



ราชบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะ สำหรับผมมองว่าราชบุรีเป็นเมืองที่ทางท่องเที่ยวเเละน่าอยู่มากๆ ผู้คนน่ารัก ค่อยช่วยเหลือ ทั้งนักท่องเที่ยว เเละคนทั่วไป ผมมาที่นี้เเบบไม่ค่อยหาความรู้มาสักเท่าไหร่ กะว่าคงทำไรไม่ค่อยลำบาก เเต่ที่จริงเเล้ว เราจะไปที่ไหนควรศึกษาวางโปรเเกรมไว้ให้ดีจะดีกว่า งั้นจะค่อนข้างลำบาก ในการจะไปเเต่ละที่ในเเต่ละวัน เเต่ว่าที่ผมไปไหนมาไหนได้ดี อาจเพราะคนที่นี้ค่อยช่วยเหลือในระดับหนึ่งเลย ทั้งเรื่องที่พัก เดินทาง เเละการสอบถามที่ต่างๆ ยังไงก็อยากให้ลองไปดูกันนะครับ สำหรับราชบุรี สำหรับทริปนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก รอติดตามทริปต่อไปกันได้เลย

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Like us on Facebook